ตำนานเพลงที่ไม่มีวันตาย : Elvis Preley

ย้อนเรื่องราวครั้งวันวาน ในยุคสมัยของคุณ พาสู่ดนตรีที่เป็นตำนานและอยู่ในใจของใครหลายคน ทุกเรื่องราว ทุกบทเพลงแห่งความทรงจำ นำมารวมไว้ในที่นี้ ให้ได้ติดตามกัน

กว่าจะมาเป็น Rock and Roll

ไปพบกับเรื่องราว เสียงเพลงแห่งตำนานดนตรี Rock and Roll ทุกเรื่องราว ความเป็นมา ให้หวลรำลึก ตำนานเพลง จากคนดำสู่ คนขาว หลากหลายดนตรี หลายสายพันธ์ดนตรี ไม่มีวันลืม

ดนตรียุคใหม่แห่งอิเล็คทริค และเสียงสังเคราะห์สู่ตำนาน

ยุคทศวรรษสู่โลกดนตรีอิเล็คทริค เสียงสังเคราะห์สู่ดนตรียุคใหม่อย่างสมบูรณ์ ทุกเรื่องราวดนตรี และความยิ่งใหญ่แห่งตำนานเพลงที่ไม่มีวันตาย รอคุณอยู่ ณ ที่นี้ โลกของบทเพลงแห่งตำนาน

ยุคสมัยการวางรากฐานดนตรีที่มั่นคง

กระแสดนตรีจากเกาะอังกฤษที่ถาโถมสังคมอเมริกันที่จดจำแห่งยุคสมัย The Beatles วง 4 เต่าทองผู้สร้างกระแสความนิยมไปทั่วโลก พบกับตำนานเพลงและเรื่องราวของพวกเขาเหล่านี้ได้ที่นี่

คันทรีย์ร็อคที่มีอิทธิพลแห่งยุคสมัย

บทเพลง The EAGLES สร้างตำนานเพลงแห่งยุคสมัย พบกับเรื่องราวของพวกเขาเหล่านี้และเรื่องราวในยุคสมัยมากมาย รอคุณอยู่ ณ ที่แห่งนี้

Thursday, September 29, 2011

ยุค 50’S : ตอนที่ 3 ยุคเฟื่องฟู Rock & Roll

ในขณะที่ศิลปิน นักดนตรีผิวดำสร้างผลงาน แต่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของร็อคแอนด์โรลล์ ก็เป็นการมาของหนุ่มนักร้องผิวขาวที่ชื่อ เอลวิส เพรสลีย์ (Elvis Presley) ในต้นปี 1956 เอลวิส ในวัย 21 กับเพลง Heartbreak Hotel ที่ขึ้นอันดับ 1 ก็โด่งดังไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว Elvis Presley มีผลงานเพลงฮิตติดอันดับนับไม่ถ้วน

ตั้งแต่ 1956 ถึง 1958 อาทิเช่น

Love me tender (1956)
Loving you (1957)
Jailhouse rock (1957) 
King Carole (1958) 

เอลวิสมีเพลงฮิตหลายเพลง อย่างเพลง 

Blue Suede Shoes
I Want You I Need You I Love You,
Hound Dog, Don Be Cruel, Love Me,
Anyway You Want Me 
Love Me Tender 

ส่งผลให้เขากลายเป็นราชาร็อคแอนด์โรลล์ไปในทันที


ศิลปินนักร้องคนอื่น ๆ ต่างสร้างผลงานระดับตำนาน อาทิ 

Carl Perkins,
Frankie Lymon and The Teenagers ,
Fats Domino ,
Chuck Berry ,
Gene Vincent and The Blue Caps ,
Bo Diddley ,
The Platters ,
Jerry Lee Lewis,
Buddy Holly,
Ricky Nelson,
Roy Orbison 
เป็นศิลปินรุ่นต่อมาที่ได้ร่วมสร้างดนตรี ให้ร็อคแอนด์โรลล์ เป็นฐานแน่นหนาขึ้น

 ร็อคแอนด์โรลล์ เกิดจากส่วนผสมของดนตรีหลายอย่างที่มีอยู่ก่อนหน้านั้น เช่น Country, Gospel, Blues และ Rhythm and Blues และมาตอกย้ำด้วย ราชาร็อคแอนด์โรลล์ เอลวิส เพรสลี่ย์ ที่ทำให้ร็อคแอนด์โรลล์โด่งดังเป็นพลุแตก ยากที่จะมีใครมาลบเลือนผลงานของเขาไปได้  

ยุค 50’S : ตอนที่ 4 เมื่อ Rock & Roll อ่อนล้า ผ่านยุคสมัย


ในขณะที่ดนตรี Rock & Roll  ในอเมริกาได้รับความนิยมอย่างสูงสุดอยู่นั้น  หากข้ามไปอีกฝากฝั่งของอังกฤษ ในยุคสมัยนั้น แทบจะ ไม่มีแม้สถานีวิทยุใดที่ไม่เปิดเพลง ร็อคแอนด์โรลล์  ซี่งได้รับความนิยมแพร่กระจายไปในวงกว้าง ยากที่ดนตรีของอังกฤษเองจะมาเทียบรัศมีได้  แต่เมื่อดนตรีมาถึงจุดสูงสุด ย่อมต้องมีตกลงเป็นธรรมดา ในที่สุดยุคเสื่อมของ ร็อคแอนด์โรลล์ ของอเมริกาก็มาถึง ภายหลังจากที่เริ่มต้นได้ไม่นานนัก

ในตอนปลาย ทศวรรษ 50 นี่เอง ที่เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของร็อคแอนด์โรลล์ มีศิลปินนักร้องอเมริกา หลายคนต้องถึงจุดเปลี่ยน เมื่อ Chuck Berry ถูกจับ Little Richard เลิกเล่นดนตรี และเปลี่ยนอาชีพไป เป็นนักบวช แทน ราชาแห่งร็อคแอนด์โรลล์  วงการอย่าง Elvis Presley ต้องถูกเกณฑ์ไปประจำการที่เยอรมัน หรือ Buddy Holly ที่เสียชีวิตลงอย่างกะทันหันเนื่องจากเครื่องบินตก

ภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ดนตรี  ร็อคแอนด์โรลล์  









ในช่วงนี้ ร็อคแอนด์โรลล์ ในอเมริกาได้อ่อนล้าโรยแรง และหยุดชะงักลง และความดังค่อย ค่อยเงียบหายไป   แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้จะเป็นจุดสิ้นสุดดนตรี ร็อคแอนด์โรลล์ เพราะต่อจากนี้ อีกไม่กี่ปี เมื่อเข้าสู่ทศวรรษที่ 60  ดนตรี ร็อคแอนด์โรลล์ ได้พัฒนาแตกหน่อ แตกสาขาออกมามากมาย และได้กลายเป็นรากแก้วของดนตรีกระแสร็อค ที่มีเรื่องราวและตำนานที่เล่าขานกันมาจนทุกวันนี้

Wednesday, September 28, 2011

ยุค 60’S : ตอนที่ 1 British Rock Invasion


  ในทศวรรษที่ 60  ดนตรียังคงได้รับอิทธิพลเพลงมาจากยุค 50 อย่างต่อเนื่อง   เพลง  Rock & Roll ของ  Chuck Berry  ส่งผลต่อวงดนตรีดังหลาย ๆ วง ที่เห็นเด่นชัด อย่าง The Rolling Stone ,   The Yardbirds เป็นต้น   ในยุคนี้ ดนตรีมีการเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ ๆ หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรีและอุปกรณ์ในสตูดิโอ รวมทั้งเทคนิคในการบันทึกเสียงต่างได้รับการพัฒนามากขึ้น คุณภาพเสียงที่ได้มีความคมชัดดีขึ้น ด้านเนื้อหาของเพลง ก็ได้เกิดการแตกแขนง พัฒนาการของดนตรีไปอย่างมากมาย

ดนตรีในหลาย ๆ แนวถูกจับรวมผสม กันจนทำให้เกิดดนตรีในแนวใหม่ อีกหลายรูปแบบ  เทคนิคในการเล่นเครื่องดนตรีแต่ละชนิดได้รับการพัฒนามากกว่าในยุคทศวรรษที่ 50 เป็นอย่างมาก ทำให้ศิลปินนักดนตรี สามารถ สร้างสรรค์เสียงเพลงได้อย่างไร้ข้อจำกัด  ในยุคนี้ เกิดปรากฏการณ์ซุปเปอร์ฮีโรมากมายหลายคน  ที่กลายมาเป็นระดับตำนานจนทุกวันนี้ ผลงานของนักร้องนักดนตรีในยุคนี้มีอิทธิพลต่อนักดนตรีในยุคต่อมาเป็นอย่างมาก จนกล่าวได้ว่า ในทศวรรษที่ 60 เป็นยุคทอง ของวงการดนตรีสมัยใหม่อย่างแท้จริงก็ว่าได้

      อย่างที่บอกไว้นะครับ อิทธิพลเพลง Chuck Berry   มือกีต้าร์ชาวอเมริกัน, นักร้อง, และนักแต่งเพลงและเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกในแนวเพลง Rock & Roll   เพลงดังของเขาอย่าง" Maybellene "(1955) ในยุค 60 มีวงดังที่ได้รับอิทธิพลอย่าง Rolling Stone ที่ประกอบไปด้วยสมาชิก Mick Jagger นักร้องนำ และ  Keith  Richard , Brian Jones  กีตาร์ Bill  Wyman เบส และ Charlie  Watts เล่นกลอง โดยเฉพาะสำเนียงกีตาร์ของ Keith  ด้วยภาพลักษณ์แบดบอย กับดนตรีที่หนักหน่วง  ทำให้วง Rolling Stone ได้ชื่อว่าเป็นวงดิบเถื่อนที่สุดในขณะนั้น เพลงของวงนี้ที่ติดในชาร์ตหลายเพลง อันดับหนึ่งเพลง Satisfaction  อาทิ Paint It Back , Honky Tong
อิทธิพลของ Chuck Berry ยังส่งผลมาถึงวง The Yardbirds ซึ่งผู้นำวงคือ John Mayall ที่ได้สร้างมือกีตาร์ระดับโลกที่ผ่านการเล่นจากวงนี้ถึง สามคนคือ Eric Clapton , Jeff Beck , Jimi Page ซึ่งภายหลังมือกีตาร์ทั้งสามคนได้ออกไปตั้งวงของตนเองและประสบความสำเร็จ อย่างสูง

ในยุคซิกซิตี้ วงดนตรี The Beatles   จากเมือง Liverpool Sound ได้ทำให้วงการดนตรีเปลี่ยนไปอย่างแท้จริง  ความสำเร็จของ The Beatles  ซึ่งประกอบไปด้วย John Lennon ร้องนำ , Paul McCartny กีตาร์ , George Harrison เบส , Ringo Starr กลอง  ซึ่งได้โปรดิวเซอร์มือดีอย่าง George Martin ทำผลงานเพลงของ  The Beatles ได้ลงตัวของส่วนผสมดนตรี Pop และ Rock และ Melody ที่ไพเราะและจังหวะเร่งเร้า ทำให้เพลงต่าง ๆ ของ  The Beatles  ได้รับความนิยมเป็นจำนวนมากและเป็นอมตะจนทุกวันนี้ อาทิ Yesterday , Can’t Buy Me Love ที่ขึ้นอันดับหนึ่งบิลบอร์ดในปี 1964 , หรือเพลง Norwegian Wood เพลงที่นำเอาปรัชญาดนตรีอินเดียมาผสมผสานและเพลงฮิตต่าง ๆ อีกมากมาย    เพลงของ  The Beatles  ได้สร้างกระแสความนิยมไปทั่วโลก ไม่เว้นแต่อเมริกา  โดยกระแสดังกล่าวอาจเรียกได้ว่า เป็นกระแส Beatle ฟีเวอร์ หรือ The British Invasion วงดนตรี The Beatles   ขายภาพลักษณ์สะอาด ดูผู้ดี เข้าได้กับผู้ฟังทุกวัย ซึ่งตรงกันข้ามกับ วง Rolling Stone ที่ภาพพจน์ออกในแนวดิบเถือน ตรงกันข้ามกับ The Beatles  โดยสิ้นเชิง

ยุค 60’S : ตอนที่ 2

             ในยุคซิกซ์ตีส์มีวงดนตรีของอังกฤษเกิดขึ้นใหม่หลายวง มากมาย ที่มีการร้องเล่นใกล้เคียงกับ Beatles นั้นอย่าง
 The Kins มีเพลงได้รับความนิยม  You really Got me 
หรือฝั่งอเมริกา อย่างวง The Beach Boys เพลงฮิตอย่างเพลง Fun Fun Fun  
หรือวง The Classic IV เพลง Traces 
หรือวง Turtles เพลง Happy Together 
หรืออย่างวง The Hollies เพลง Bus Stop , 
วง The Animal  ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในเพลง House the Rising Sun   

หรือวง The Who ได้ให้กำเนิดดนตรีแบบ Mod Rock  พร้อมการแสดงสดที่มันทะลุทะลวง สุดเร้าใจ เพราะทุกครั้งที่ The Who ขึ้นเล่นจะมีการเผาทำลายกีตาร์บนเวที ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของมือกีตาร์และผู้นำวง Pete Towshend   วงดนตรี The Who ได้สร้างผลงานเป็นแบบฉบับในลักษณะเป็น Concept Album และดนตรีแบบ Rock Opera เพลง My Generation เป็นเพลงที่เป็นที่จดจำได้เป็นอย่างดี                  


Share

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More